ทำไปได้..

หิ้วกระเทยแสบกรุงเก่า ทำแผนชิงทองเมืองขุนแผน

วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม 2555 เวลา 10:54 น.

ตำรวจกระเทยแสบบุกฉกทองร้านดังเมืองสุพรรณบุรี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพไปขายใช้หนี้ยาบ้า

วันนี้ (7ก.ค.) พ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี พ.ต.ท.สุภาพ วัยนิพิฐพงษ์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สุกฤษฎิ์ วิศิษฐ์ชนะชัย สว.สส. พ.ต.ต.ศุภชัย จันทร์เปล่ง สวป. พ.ต.ต.สมพร พรธานิศกุล พนักงานสอบสวน สภ.สองพี่น้อง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 20 นาย ได้นำตัว นายเอนก พันธุ์เขียน หรือเอ อายุ 31 ปี กระเทยแสบอยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 7 ต.ลานกระบือ อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร ผู้ต้องหาชิงทองร้านทองมีโชค เลขที่ 11 ถนนราษฎร์สำราญ เขตเทศบาลเมืองสองพี่น้อง ของ นางอุษณีย์ ลาภพาณิชย์พูลผล อายุ 54 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีชาวบ้านกว่า 100 คน มารอดูการทำแผน พร้อมกับด่าทอสาปแช่ง ตำรวจต้องกระจายกำลังคุ้มกันผู้ต้องหากันชุลมุน จนดำเนินการทำแผนเสร็จสิ้นไปด้วยดี

นายเอนก ให้การรับสารภาพว่า ได้วางแผนชิงทองจากร้านทองมีโชค โดยทำทีเข้ามาภายในร้านติดต่อซื้อสร้อยคอทองคำ หนัก 5 บาท โดยเลือกดูลวดลายหลายเส้น จากนั้น นางอุษณีย์ ได้หยิบสร้อยคอทองคำ 1 เส้น ให้ลองสวมใส่พอได้โอกาส จึงรีบเดินออกไปจากร้านขึ้นรถจักรยานยนต์ ที่จอดอยู่หน้าร้านติดเครื่องยนต์ขับหลบหนีไป หลบซ่อนตัวกบดานอยู่ที่บ้านพักใน อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา  และนำทองไปขาย เพื่อใช้หนี้สินขบวนการค้ายาเสพติด จำนวน 1.4 แสนบาท ที่เครดิตนำยาบ้า และยาไอซ์มาขาย แต่ตนกลับนำมาแจกจ่ายให้เพื่อนฝูงในกลุ่มกระเทย และแฟนหนุ่มคู่ขาเสพจนหมด จึงตัดสินใจบุกเดี่ยวลงมือชิงทองดังที่ร้านดังกล่าว แต่ก็หนีไม่พ้นถูกตำรวจตามรวบตัวจนได้

พ.ต.อ.ภาสกร กล่าวว่า หลังจากที่คนร้ายได้ลงมือชิงทองหนีออกจากร้านไปนั้น ทางตำรวจ สภ.สองพี่น้อง ได้ตรวจพบร่องรอย และหลักฐานที่คนร้ายทิ้งไว้คือ ถุงใส่เสื้อผ้าที่ซื้อมาจากร้านบาร์โค้ดแฟชั่น และตลับพร้อมถุงใส่ทองร้านนริศรา ระบุว่าอยู่ใน ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรีบประสานตำรวจท้องที่ และลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแส จนกระทั่งจับกุมตัวได้สำเร็จ

MThai News: สำนักข่าวต่างประเทศเผยภาพ ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข่าพร้อมก้มศีรษะคำนับพื้นถนน จนเลือดออกเพื่อหวังให้ภรรยายกโทษให้

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.40 น. ผู้คนในร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองผูเถียน ในมณฑลฝูเจี้ยนของจีน ต่างพากันมองไปที่ชายหนุ่มอายุน้อย หน้าตาดีคนหนึ่งที่เดินเข่า พร้อมเอาศีรษะก้มลงแตะพื้นทุกครั้งที่ก้าวเข่าไป จนหน้าผากมีเลือดอาบ แม้ว่าผู้คนที่ผ่านไปมาแถวนั้นพยายามเข้าไปให้ความช่วยเหลือ แต่ชายหนุ่มปฏิเสธ พร้อมบอกว่าที่ทำอย่างนี้เพราะต้องการให้ภรรยายกโทษให้ โดยเขาจะคุกเข่าไปจนกว่าจะถึง Zhengrong Times Square ซึ่งเป็นระยะทางกว่า 1,000 เมตร

เขาเดินเข่าไปจนเกือบ 200 เมตร กระทั่งมีผู้หญิงคนหนึ่ง ขี่จักรยานยนต์มา ก่อนจะเรียกแท็กซี่พาตัวเขาไป

อาหารและสมุนไพรรักษาหวัด

ฟ้าทะลายโจร  ในหลายคนรู้จักกันดีเพราะให้รสชาติที่ขมมาก แต่มันช่วยในการรักษาหวัดได้ดีเลยทีเดียว  ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของเราได้เป็นอย่างดี  อาการร้อนในหรือว่าเป็นไข้อยู่นั้นก็จะช่วยรักษาให้เราเย็นขึ้น  เป็นการลดไข้

ขิง  เครื่องดื่มของขิงนั้น  ช่วยในการลดไข้เป็นอย่างดี  ควรที่จะดื่มขณะยังร้อนๆ

ตำลึง  เป็นผักที่เรามารับประทานกันไม่ว่าจะเป็นการรับประทานสดหรือว่าประกอบอาหาร  ทำให้ช่วยในการถอนพิษไข้ได้ดีเยี่ยม

หอมแดง  เป็นการช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกของเรา  สามารถใช้ดูดดมทำให้ดีขึ้น

พริก  ช่วยในการขับเสมหะของเรา  ทำให้ระบบทางเดินหายใจเราสะดวกขึ้น

ส้ม  มีวิตามินซีสูง  ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงต่อต้านหวัด  และเป็นการเพิ่มน้ำในร่างกาย

เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เขียนกวีบท “ใครคือครู” ได้อย่างน่าประทับใจ เพราะชี้ให้เห็นว่าค่าของความเป็นครูนั้นอยู่ที่การ “ยกระดับจิตใจ” ให้ศิษย์ มิใช่การสอนให้ศิษย์เป็นเลิศด้านวิชาการแต่เพียงอย่างเดียว กวีบทนี้เคยใช้ประกอบโฆษณาทางโทรทัศน์ คาดว่าหลายท่านคงผ่านผ่านตามาบ้าง..

ใครคือครูครูคือใครในวันนี้	ใช่อยู่ที่ปริญญามหาศาล
ใช่อยู่ที่เรียกว่าครูอาจารย์	ใช่อยู่นานสอนนานในโรงเรียน
ครูคือผู้ชี้นำทางความคิด	ให้รู้ถูกรู้ผิดคิดอ่านเขียน
ให้รู้ทุกข์รู้ยากรู้พากเพียร	ให้รู้เปลี่ยนแปลงสู้รู้การงาน
ครูคือผู้ยกระดับวิญญาณมนุษย์	ให้สูงสุดกว่าสัตว์เดรัจฉาน
ครูคือผู้สั่งสมอุดมการณ์	มีดวงมาลเพื่อมวลชนใช่ตนเอง
ครูจึงเป็นนักสร้างผู้ใหญ่ยิ่ง	สร้างความจริงสร้างคนกล้าสร้างคนเก่ง
สร้างคนให้เป็นตัวของตัวเอง	ขอมอบเพลงนี้มาบูชาครู

เพื่อนๆ ทุกคนอย่ายอมแพ้อะไรง่ายๆน่ะ สู้ๆๆ

หวัดมรณะระบาดรพ.จิตเวชโคราชป่วยพุ่ง41ราย

วันพุธที่ 20 มิถุนายน 2555 เวลา 11:47 น.

ไข้หวัดใหญ่2009 ระบาดรพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ พบผู้ป่วย 41 ราย เร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคเฝ้าระวังผู้ป่วยจิตเวชอีก 220 ราย "วิทยา"มั่นใจเอาอยู่

มหาวิทยาลัยมหาสารคาม รับน้องสร้างสรรค์ รุ่นพี่คว้าเคียวควงน้องลงแขกเกี่ยวข้าวปลูกจิตสำนึกบรรพบุรษชาวนาไทย

วันนี้ (12 มิ.ย.) เวลา 11.00 น.ที่ศูนย์การเรียนรู้เกษตรพอเพียง เขตพื้นที่ในเมือง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้จัดกิจกรรมรับน้องสร้างสรรค์  สืบสานประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ศุภชัย สมัปปิโต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นประธานกล่าวเปิดงาน เพื่อเป็นการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าวซึ่งเป็นรากฐานของเกษตรกรไทย อีกทั้งเป็นการสร้างความสัมพันธ์ในองค์กร โดยมีผู้บริหาร อาจารย์ บุคลากร และนิสิตทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องจากคณะสัตวแพทยศาสตร์และสัตวศาสตร์  คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ คณะเทคโนโลยี  ซึ่งเป็นการต้อนรับน้องนิสิตใหม่ รับน้องสร้างสรรค์ด้วยการพาน้องร่วมสืบสานประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ศุภชัย สมัปปิโต อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง จากการที่เราเตรียมการเปิดศูนย์การเรียนรู้เกษตรพอเพียง ณ เขตพื้นที่ในเมือง ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่ในช่วง Summer ที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราได้มีการปลูกข้าวเป็นข้าวพันธุ์ปทุม ได้ทำการปลูกมาประมาณ 90 วันแล้ว และในช่วงนี้เป็นช่วงที่ดีมากคือเป็นช่วงเทศกาลรับน้องใหม่ มหาวิทยาลัยจึงได้จัดกิจกรรมประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าวของศูนย์การเรียนรู้เกษตรพอเพียง สำหรับนิสิตใหม่ที่มาร่วมกับเราในวันนี้ประกอบด้วยนิสิตจากคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ นิสิตคณะเทคโนโลยี นิสิตคณะสัตวแพทยศาสตร์และสัตวศาสตร์ และที่สำคัญมีผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากรของมหาวิทยาลัยมาร่วมกันในการที่จะเกี่ยวข้าวในครั้งนี้ ซึ่งมหาวิทยาลัยมีนโยบายที่ชัดเจนในการที่จะอนุรักษ์และสืบสานประเพณีที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของชาวเกษตรกรทุกๆอาชีพ และก็จะพัฒนาศูนย์การเรียนรู้นี้ ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ของพี่น้องประชาชนโดยทั่วไป ก็หวังว่ากิจกรรมในวันนี้นอกจากเป็นการอนุรักษ์ประเพณีที่ดีงามแล้ว เรายังเป็นส่วนหนึ่งของการรับน้องสร้างสรรค์ของมหาวิทยาลัยมหาสารคามอีกด้วย โดยทางรุ่นพี่จะมีการรับน้องทุกคณะด้วยการรุ่นพี่พารุ่นน้องลงเกี่ยวข้าว เพื่อให้รุ่นน้องได้ทราบถึงการมีข้าวใส่ปากหนึ่งเม็ดนั้นมีความหมายมากขนาดไหนกว่าเกษตรกรชาวนาจะได้ข้าวมาสู่ประชาชน

การเรียนแม้เหนื่อยยาก


ยอมลำบากอย่าท้อถอย


สุดทางที่รอคอย


คืออนาคตอันงดงาม

รายละเอียด ..Blog.. (โปรดใช้ข้อความสุภาพ)

1. ใส่รูปภาพ และประวัติส่วนตัว
2. บันทึกกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน
3. บันทึกข่าวสารที่น่าสนใจ หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ
4. บันทึกแง่คิด หรือข้อคิดดีๆ ในการดำเนินชีวิต
5. สร้าง Link เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง โดยให้ใส่ Link ของ Blog เพื่อนๆ ในขั้นเรียน
6. ชักชวนให้เพื่อนมาแสดงความคิดเห็นใน Blog ของตนเอง
7. ตกแต่ง Blog ให้งดงามน่าอ่าน

น้ำทับทิม

ทับทิม เป็นผลไม้ที่สวยงามและมีกลิ่นหอมมาก สามารถปลูกได้ในประเทศไทย แต่ที่แท้จริงเป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดมาจากเปอร์เซีย (ประเทศอิหร่านในปัจจุบัน) และมีแถบอินเดียตอนเหนือบริเวณเทือกเขาหิมาลัย

ในเมืองไทย ทับทิมดูจะเป็นผลไม้ที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่นิยมนำไปถวายแด่พระแม่กวนอิม ในประวัติศาสตร์ พบว่าได้มีการนำทับทิมมาทำเป็นยารักษาโรคตั้งแต่ 80 ปีมาแล้ว ในประเทศเปอร์เซียโบราณมีความเชื่อว่า คุณค่า ทางอาหารทุกชนิดที่มีอยู่ในผลไม้ต่างๆ นั้น รวมกันอยู่ในทับทิม ทับทิมเป็นผลไม้ที่ได้รับการเพาะปลูกอย่างแพร่หลาย โดยมีการใช้ทับทิมเป็นสัญลักษณ์ของผลไม้ ถือว่าเป็นผลไม้จากสวรรค์หรือเป็นของขวัญจากพระเจ้า

ส่วนผสม

• เนื้อลูกทับทิม 1 ถ้วยตวง
• น้ำต้มสุก 1 ถ้วยตวง
• น้ำเชื่อม ตามชอบ
• เกลือ ตามชอบ

วิธีทำ

นำทับทิมแกะเอาแต่เนื้อ 1 ถ้วย ใส่ในผ้าขาวบางขยำเติมน้ำต้มสุข 1 ถ้วย ขยำซ้ำอีก กะว่าให้ได้เนื้อออกมาจากเมล็ดมากที่สุด จากนั้นนำมาเติมน้ำเชื่อมและเกลือป่น คนให้ละลาย ชิมตามชอบ

ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพร

ทับทิมในตำราแพทย์สมัยโบราณ ในผลทับทิมมีวิตามินมากมายหลายชนิด รวมทั้งแมกนีเซียมและแคลเซี่ยม ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบฟอกโลหิต และ ระบบการหมุนเวียนในร่างกาย ในตำราแพทย์โบราณของเปอร์เซีย (ซึ่งถือว่าเป็นต้นตำรับของวิชาแพทย์ตะวันตกในปัจจุบัน) ระบุว่าทับทิมมี ประโยชน์ดังต่อไปนี้

• การฟื้นฟูสู่สภาพเดิมของหัวใจและตับ
• การฟอกไตและท่อปัสสาวะ
• สมรรถนะในการส่งเสริมการย่อย
• ขจัดไขมันส่วนเกิน
• เป็นยาบำรุงกำลัง
• ช่วยป้องกันการแพ้ท้อง
• ช่วยปรับฮอร์โมนในวัยหมดประจำเดือน
• ปรับปรุงระบบการฟอกและหมุนเวียนโลหิต
• การฟื้นฟูจากโรคเบาหวาน
• สมรรถนะในการกลั้นเสมหะ
• ต่อต้านการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศและเพิ่มพลัง
• ป้องกันโรคขี้หลงขี้ลืมในผู้สูงอายุ
• ทำให้ผิวหน้าสวย